Sky Pink Rabbit

ชื่อจริง วรินทร ปัญหกาญจน์ เป็นชาวเพชบูรณ์ มีผลงานละคร อาทิเช่น รักเธอยอดรัก สายสืบดิลิเวอรี่ ไฟโชนแสง จงกลกิ่งเทียน เพลงรักริมขอบฟ้า กุหลาบร้ายกลายรัก ลิขิตเสน่หา เล่ห์ร้อยรัก The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ สุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายธราธร สามี รักต้องอุ้ม ใต้เงาจันทร์ ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ นางอาย คนละขอบฟ้า My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ลับลวงใจ เขาวานให้หนูเป็นสายลับ ดาวคนละดวง

ประวัติ เพื่อน คณิน หนุ่มมีรอยยิ้มที่สาว ๆ เทใจ ชื่อจริง คณิน ชองประดิถ ชื่อเล่น เพื่อน มีผลงานละคร อาทิเช่น ใต้ร่มใบภักดิ์ รักนี้เจ๊จัดให้ สุดแค้นแสนรัก ใต้เงาจันทร์ ที่หนี้มีรัก ไข่มุกมังกรไฟ ริมฝั่งน้ำ รักพลิกล็อก ลิขิตแห่งจันทร์ และทิวาซ่อนดาว

ประวัติ น้ำตาล พิจักขณา สาวสวยตาโตและแสนหวาน ชื่อจริง พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ ชื่อนเล่น น้ำตาล มีผลงานละคร อาทิเช่น มัจจุราชสีน้ำผึ้ง เรือนริษยา ดาวเคียงเดือน บันทึกรรม สายลับสามมิติ สะใภ้จ้าว บริษัทรักอุตลุต ตะวันยอแสง ประกาศิจกามเทพ ลิขิตแห่งจันทร์ ลิขิตรักข้ามดวงดาว และผมอาถรรพ์

ประวัติ ณิชา ณัฏฐณิชา สาวใส ๆ ที่น่ารัก เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ มีพี่น้อง 3 คน เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจากการชักชวนของ ธนินทร์ ไฝสิงห์ ขณะอายุได้ 17 ปี ได้เล่นละคร อาทิเช่น ทองเนื้อเก้า คิวบิก สามใบไม่เถา เลือดมังกร ตอนแรด สะใภ้เจ้า นางอาย คลื่นชีวิต กามเทพซ้อนกล เสน่ห์นางงิ้ว ลมไพรผูกรัก เพลิงพรางเทียน ดวงใจในมนตรา วาสนารัก และเกมปรารถนา

ประวัติ โตโน่ ภาคิน หนุ่มหล่อเก็บรักธรรมชาติ ชื่อจริง ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ชื่อเล่น โตโน่ คุณพ่อได้เสียชีวิตแล้ว คุณแม่ชื่อ สุดลมโชย คำวิลัยศักดิ์ มีน้องสาว 1 คน ชื่อ แสงระวี คำวิลัยศักดิ์ เข้าสู่วงการบันเทิงจากการประกวดร้องเพลงในรายการเดอะสตาร์ 6 ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ต่อมาโตโน่ได้เป็นร้องน้อง ดารานักแสดงละคร และภาพยนต์หลายเรื่อง อาทิเช่น ข้าวมเวลาหารัก เรือนแพ บุหงาหน้าฝน นางสิงห์สะบัดช่อ บ่วงวันวาร ปีกมาร สื่อริษยา หัวใจมีเงา อยู่ที่เรา เพชฌฆาตดาวโจร บริษัทรักอุตลุต วายุเทพยุทธ์ และดวงใจในมนตรา

พุทธประวัติ ตอนที่ 56 พุทธกิจพรรษาที่ 45(ต่อ) เสด็จดับขันธปรินิพพาน ต่อจากนั้นพระพุทธองค์ได้ตรัสให้พระอานนท์ประชุมภิกษุสงฆ์ และได้ประทานปัจฉิมโอวาทว่า “ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอเตือนท่าน ทั้งหลาย สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมสิ้นไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลาย จงบำเพ็ญไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด” จากนั้นทรงปรินิพพานบริกรรมด้วยอนุปุพพวิหารสมาบัติทั้ง 9 เมื่อพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว พุทธบริษัททั้งหลายแต่ก็โคกเศร้าเสียใจเดินทางมาสักการะพระพุทธสรีระศพ เป็นเวลา 6 วัน ครั้นวันที่ 7 มัลลกษัตริย์ได้อัญเชิญพระพุทธสรีระศพไปยังประตูทิศตะวันออกของเมืองกุสินารา ได้ผ่านบ้านนางมัลลิกาภรรยาของเจ้าพันธุละอำมาตย์ นางได้ถวายเครื่องประดับมหาลดาประสาธน์แก่พระพุทธสรีสระศพ จากนั้นขบวนได้เคลื่อนมาถึงที่จิตรกาธารไม้จันทร์หอม ก็จัดการห่อพระพุทธสรีระศพด้วยผ้าขาว 500 ผืน แล้วอัญเชิญลงประดิษฐ์ฐานในหีบทอง เมื่อมัลลกษัตริย์ผู้เป็นประธานพิธีจะถวายพระเพลิงไฟก็ไม่ติดตามประสงค์ จนพระมหากัสสปะเดินทางมาถึงก็โศรกเศร้า พระพุทธองค์ได้แสดงปฏิหาริย์ยืนพระบาทออกมาจากหีบทอง พระมหากัสสปะจึ...

พุทธประวัติ ตอนที่ 55 พุทธกิจพรรษาที่ 45(ต่อ) สุภัททะสาวกองค์สุดท้าย สุภัททะ เดิมเป็นพราหมณ์อยู่ในตระกูลใหญ่ ต่อมาได้ออกบวชเป็นปริพาชก อยู่ในเมืองกุสินารา เมื่อสุภัททะทราบว่าพระพุทธเจ้าประชวรหนัก และใกล้จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน สุภัททะมีข้อสงสัยที่อยากจะขอให้พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม เพื่อแก้ข้อสงสัยนั้น จึงเดินทางไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ แต่ พระอานนท์ได้ออกมาห้ามไว้ เพราะเกรงว่าอาจเป็นการรบกวนพระพุทธองค์ที่ทรงประชวรหนัก ฝ่ายสุภัททะก็จะขอเข้าเฝ้าให้ได้ จนพระอานนท์ต้องห้ามปรามอยู่ถึง 3 ครั้ง เมื่อพระพุทธองค์ทรงได้ยินเสียงโต้ตอบนั้น จึงทรงให้สุภัททะเข้าเฝ้าและ เปิดโอกาสให้ถามข้อสงสัย สุภัททะจึงได้ถามว่า คณาจารย์ทั้ง 6 เช่น ปูรณะ กัสสปะ มักขลิโคศาล อชิตเกสกัมพล เป็นต้น เป็นศาสดาเจ้าลัทธิที่มีคนนับถือมาก เคารพบูชามาก ศาสดาเหล่านี้ยังจะเป็นพระอรหันต์หมดกิเลสหรือไม่ประการใด พระพุทธองค์ก็ได้ตรัสขึ้นว่า เวลาของท่านนั้นเหลือน้อยแล้ว ขอให้สุภัททะ ถามสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตนเองเถิด ดังนั้น สุภัททะ จึงเลือกถามปัญหา 3 ข้อ คือ 1. รอยเท้าในอากาศมีอยู่หรือไม่ม 2. สมณะภายนอกศาสนา...

พุทธประวัติ ตอนที่ 54 พุทธกิจพรรษาที่ 45(ต่อ) พระอานนท์ร้องไห้ ช่วงนี้พระพุทธองค์ทรงประชวรหนัก พระองค์บรรทมบนเตียงใต้ต้นสาละคู่ ณ สาลวโนทยาน เมื่อพระพุทธองค์ตรัสกับพระอานนท์เสร็จแล้วก็ทรงบรรทมนิ่งอยู่ พระอานนท์ไม่อาจจะ อดกลั้นความเสียใจและอาลัยพระพุทธเจ้าไว้ได้ ท่านจึงหลบหลีกออกจากที่เฝ้าเข้าออก ไปยืนอยู่หน้าบานประตูวิหาร มือเหนี่ยวสลักเพชรหรือลิ่มสลักกลอนประตูแล้วร้องไห้ รำพันว่า ตัวเราได้บรรลุคุณธรรมขั้นแรกเป็นเพียงแค่โสดาบัน พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นทั้งพระศาสดาและพระเชษฐา ของเรา ก็จักมานิพพานจากเราไปก่อนเสียแล้ว เมื่อพระพุทธองค์ไม่ทรงเห็นพระอานนท์ ก็ทรงตรัสเรียกพระอานนท์มาเข้าเฝ้า พระพุทธองค์ทรงตรัสปลอบใจพระอานนท์ว่า "อานนท์เธอเป็นผู้มีบารมีธรรมที่ได้สั่งสมมามากแล้ว เธอเป็นผู้มีบุญที่ได้ทำไว้แล้วมาก อย่าเสียใจเลย กิจอันใดที่ควรทำแก่ตถาคต เธอได้ทำกิจนั้นอย่างสมบูรณ์ ด้วยกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม อันประกอบด้วยเมตตาอย่างยอดเยี่ยม จงประกอบความเพียรเถิด เมื่อเราล่วงลับไปแล้ว เธอจะต้องสำเร็จอรหัตตผลเป็นพระอรหันต์ในไม่ช้า" จากนั้นพระพุทธองค์ตรัสส่งให้พระอานนท์ไปแจ้งว่าปรินิพ...

พุทธประวัติ ตอนที่ 53 พุทธกิจพรรษาที่ 45(ต่อ) สังเวชนียสถาน 4 แห่ง และวิธีปฏิบัติในพระพุทธสรีระ ณ พระแท่นบรรทม พระพุทธองค์ได้ตรัสกับพระอานนท์ โดยทรงตรัสถึงสังเวชนียสถาน 4 แห่ง เป็นสถานที่ทำให้เกิดความรู้สึกระลึกถึงพระพุทธเจ้า เกิดความแช่มชื่น เบิกบาน เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำความดี ได้แก่ 1.สถานที่ประสูติ เป็น สถานที่พระพุทธองค์ประสูติจากพระครรภ์มารดา ตำบลหนึ่งคืออุทยานลุมพินี 2.สถานที่ตรัสรู้ เป็นสถานที่พระพุทธองค์ตรัสพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ตำบลหนึ่งคือ ควงไม้โพธิ์ พุทธคยา 3.สถานที่แสดงปฐมเทศนา เป็นสถานที่พระพุทธองค์ให้พระอนุตรธัมมจักเป็นไป หรือแสดงปฐมเทศนาตำบลหนึ่ง คือ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี (ปัจจุบันเรียก สารนาถ) 4.สถานที่ปรินิพพาน เป็นสถานที่พระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ตำบลหนึ่ง คือ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา จากนั้นพระอานนท์ได้กราบทูลถามเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติในพระพุทธสรีระหลังจากพระพุทธองค์เสด็จปรินิพพาน พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า จะปฏิบัติโดยพันพระสรีระแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ์ ด้วยผ้าขาวซับด้วยสำลี แล้วห่อด้วยผ้าขาว ๕๐๐ คู่ ...

พุทธประวัติ ตอนที่ 52 พุทธกิจพรรษาที่ 45(ต่อ) นายจุนทะถวายสุกรมัททวะ ครั้นพระพุทธองค์ได้เสด็จไปยังเมืองกุสินารา สถานที่ทรงกำหนดว่าจะนิพพานเป็นแห่งสุดท้าย จนไปถึงเมืองปาวาในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งเป็นวันก่อนเสด็จนิพพานเพียงหนึ่งวัน พระองค์เสด็จเขัาไปประทับอาศัยที่สวนมะม่วงของนายจุนทะกัมมารบุตร นายจุนทะเป็นลูกนายช่าง ทอง ได้ทราบข่าว ก็ออกไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์และ ฟังธรรม เมื่อฟังจบแล้ว นายจุนทะกราบทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์เสด็จไปรับภัตตา หารที่บ้านของตนในเวลาเช้าวันรุ่งขึ้น ครั้นเวลาเช้าวันรุ่งขึ้น นายจุนทะได้ถวายอาหารพระพุทธเจ้าและพระภิกษุสงฆ์ที่บ้านของตน อาหาร อย่างหนึ่งที่นายจุนทะปรุงถวายพระพุทธเจ้าในวันนี้มีชื่อว่า 'สูกรมัททวะ' ซึ่งแปว่า เนื้อหมูอ่อน หรือเป็นเห็ดชนิดหนึ่ง หรือเป็นอาหารอันประณีตชนิดหนึ่ง พระพุทธเจ้าตรัสบอกนายจุนทะให้จัดถวายสูกรมัททวะนั้นถวายแต่เฉพาะพระองค์ ส่วน อาหารอย่างอื่นให้จัดถวายพระสงฆ์ และเมื่อพระพุทธเจ้าทรงฉันเสร็จแล้ว รับสั่งให้นายจุนทะนำเอาสูกร มัททวะที่เหลือไปฝังเสียที่บ่อดิน เพราะคนอื่นนองจากพระองค์นั้นฉันแล้ว ร...